HOTTA Ginger | 19 Dec 2022 10:37 IP Address: |
Administrator Email:omkncp@gmail.com |
10 สรรพคุณของขิง จากงานวิจัยทางการแพทย์
ขิง เป็นพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยการนำส่วนของเหง้ามาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ทั้งในด้านการปรุงอาหาร เป็นเครื่องเทศ และเครื่องดื่ม ปัจจุบันการดื่ม "น้ำขิง" เป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป เพราะน้ำขิงถือเป็นเครื่องดื่มของคนดูแลสุขภาพ ที่สามารถดื่มได้ทุกช่วงเวลา ที่สำคัญประโยชน์ของน้ำขิง สรรพคุณ งานวิจัยทางการแพทย์ ต่างมีมากมาย เมื่อคุณดื่มน้ำขิงทุกวัน 10 สรรพคุณของขิง จากงานวิจัยทางการแพทย์ 1. ขิง มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ในการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย เนื่องจากมีงานวิจัยที่วิเคราะห์สารสำคัญใน "ขิง" ว่าดีจริง จึงมีการพัฒนาขิงให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในภาวะที่ต้องการต้านอนุมูลอิสระ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังของขิง ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย 2. ขิง มีส่วนช่วยป้องกันไข้หวัด ขิงเป็นสมุนไพรที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้ใช้ต้านไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยมีฤทธิ์ทางยาไม่แพ้ยารักษาหวัด 2009 เพราะขิงมีรสร้อน มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีงานวิจัยพบว่า น้ำขิงแก่ต้มน้ำเดือดนาน 30 นาที ทำให้เม็ดเลือดขาวชนิด แมคโครฟาส จับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ การดื่มน้ำขิงร้อนจะช่วยลดการสะสมของเชื้อไวรัสได้ 3. ขิง มีส่วนช่วยแก้คลื่นไส้ เมารถ แพ้ท้อง และช่วยเพิ่มน้ำนมในคุณแม่หลังคลอด การศึกษาทางคลินิกบอกว่า "ขิง" มีฤทธิป้องกันและบรรเทาอาการคลื่นไส อาเจียน จากการเมารถ เมาเรือ และอาการคลื่นไส้จากการตั้งครรภ์ จากการศึกษาพบว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ แล้วดื่มน้ำขิงเป็นประจำ สามารถลดอาการคลื่นไส้ได้ 4. ขิง มีส่วนช่วยปรับปรุงระบบย่อยอาหารและบรรเทาอาการท้องร่วง สรรพคุณของ "ขิง" คือ การบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นที่สนับสนุน ว่าการดื่มน้ำขิงสามารถช่วยระบบการย่อยอาหารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และงานวิจัยบางชิ้นบ่งชี้ว่า สารประกอบทางเคมีอย่างซิงเจอโรน สารประกอบสำคัญที่ได้จากการสกัดน้ำมันหอมระเหยในส่วนของเหง้าขิง มีฤทธิ์ให้รสชาติเผ็ดร้อนในแบบเฉพาะตัวนั้นมีคุณสมบัติพิเศษ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการต้านเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคท้องร่วง ท้องเสีย 5. ขิง มีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดน้ำตาล และต้านเบาหวานได้ "ขิง" มีสรรพคุณในการช่วยลดน้ำหนัก จากการศึกษาพบว่า น้ำขิงมีส่วนช่วยลดน้ำหนักตัว ช่วยลดอัตราส่วนเอวต่อสะโพกและอัตราส่วนสะโพกในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนได้ นอกจากนี้ ยังพบว่าน้ำขิงสามารถช่วยลดดัชนีมวลกาย และระดับอินซูลินในเลือดได้ ซึ่งการมีระดับอินซูลินในเลือดสูงนั้นมีความสัมพันธ์กับน้ำหนักตัว 6. ขิง มีส่วนช่วยบรรเทาอาการอักเสบ "ขิง" มีประสิทธิผลดีกว่ายาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่ สเตียรอยด์ เพราะขิงอุดมไปด้วยสารต้านการอักเสบและสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้สารจินเจอร์รอล ในขิงยังมีฤทธิ์รุนแรงกว่าแอสไพริน และช่วยต้านการอักเสบภายในร่างกาย ดังนั้นการดื่มน้ำขิงเป็นประจำ ก็จะช่วยป้องกันลดการอักเสบในร่างกายได้อีกทางหนึ่ง 7. ขิง มีส่วนช่วยบรรเทาอาการของโรคข้อเสื่อม เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเสื่อมของข้อต่อในร่างกาย และนำไปสู่อาการต่าง ๆ โดยการศึกษาพบว่าผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมแล้วดื่มน้ำขิง จะมีความเจ็บปวดในข้อต่อลดลง และจากการศึกษาพบว่า 75% ของผู้ป่วยโรคข้อ มีอาการปวดและบวมลดลง ไปจนถึงหายปวด ซึ่งกลไกในการลดอาการปวดมาจากฤทธิ์ของขิงช่วยยับยั้งการสร้าง พรอสตาแกลนดิน สารเคมีที่มีคุณสมบัตคล้ายฮอร์โมนซึ่งรับผิดชอบต่อความเจ็บป่วยและอักเสบ ซึ่งกระบวนการจำกัดหรือยับยั้งการสร้างพรอสตาแกลนดินนี้ ดูเหมือนจะเหนือกว่าสารเคมีที่ชื่อ อินโดเมตาซิน สารเคมีที่วงการแพทย์แผนปัจจุบันผลิตเป็นยาต่อต้านการอักเสบ 8. ขิง มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรน อาการปวดศีรษะไมเกรนเป็นความผิดปกติทางระบบประสาทที่พบบ่อยและมีความเกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตที่ลดลงอย่างมาก และส่วนประกอบของขิงมีผลต้านการอักเสบ ส่งเสริมการไหลเวียนของระบบเลือด และจะไปช่วยยับยั้งฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบ การดื่มน้ำขิงหรือขิงผงเป็นประจำ อาการปวดไมเกรนจะบรรเทาลง น้ำขิงสามารถใช้รักษาอาการปวดศีรษะได้ ทั้งชนิดปวดแบบสองข้างและข้างเดียวหรือไมเกรน ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะบ่อย ๆ แนะนำให้ดื่มน้ำขิงเป็นประจำ สารเคมีที่อยู่ในน้ำขิงจะสามารถปรับสารไอโคซานอยด์ ทำให้อาการปวดศีรษะบรรเทาลง ซึ่งยังมีข้อมูลในการใช้ขิงเพื่อบรรเทาอาการปวดในร่างกาย จึงถือได้ว่า "ขิง" เป็นสมุนไพรอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยไมเกรน และหากใครชื่นชอบการดื่มน้ำขิงอยู่แล้ว ก็สามารถจิบน้ำขิงอุ่น ๆ เวลาปวดไมเกรนได้ 9. ขิง มีส่วนช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืด การดื่มน้ำขิงก่อนนอนจะช่วยบรรเทาอาการได้ สารประกอบฟีโนลิกใน "ขิง" มีส่วนช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำไส้ พร้อมทั้งยังมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ "ขิง" ยังมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้อย่างอ่อน ส่งผลให้อาการท้องอืด แน่นท้อง และอาการท้องเฟ้อ บรรเทาลงได้ 10. ขิง มีส่วนช่วยยับยั้งโควิด 19 มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการกินขิงเพื่อป้องกันหรือบรรเทาอาการในผู้ป่วยโควิด 19 โดยเฉพาะตามโรงพยาบาล ศูนย์พักคอย ที่มีผู้ป่วยโควิด 19 เข้าพักรักษาตัวอยู่ ก็จะมีน้ำขิงเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มวางประจำการอยู่ที่เตียงของผู้ป่วย |